ตรวจหาเชื้อ HPV เพิ่มความแม่นยำ ลดโอกาสเสี่ยง "มะเร็งปากมดลูก"
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพสตรี
บทความโดย : พญ. จุฑาภรณ์ อุทัยแสน
มะเร็งปากมดลูก คือ สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งระบบสืบพันธุ์ ซึ่งมีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HPV โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะไม่แสดงอาการจนกว่าโรคจะพัฒนาจนร้ายแรง ฉะนั้นการป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด คือ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเบื้องต้นร่วมกับตรวจหาเชื้อไวรัส HPV DNA Test ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวมพลังคูณสองของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูง หากไม่มีความผิดปกติ ไม่พบเชื้อ HPV สายพันธุ์ก่อมะเร็ง ย่อมมั่นใจได้ว่าโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกมีได้น้อยมาก
มะเร็งปากมดลูก รักษาได้ หากตรวจได้เร็ว
การตรวจมะเร็งปากมดลูก เป็นการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกก่อนที่จะมีอาการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งปากมดลูก หรือตรวจหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้ โดยมี 3 วิธีง่ายๆ ได้แก่
- ตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบแปปเสมียร์ (Conventional PAP Smear) เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาปากมดลูกแบบดั้งเดิม มีวิธีการตรวจโดยแพทย์จะใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก แล้วนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ วิธีนี้อาจได้ความแม่นยำไม่มากนัก แนะนำควรมาตรวจซ้ำทุก 1-2 ปี วิธี
- ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pathtezt เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาปากมดลูกที่พัฒนามาจากวิธี Pap Smear สามารถลดการปนเปื้อน และช่วยในการตรวจเซลล์ได้ชัดเจนขึ้น โดยวิธีการเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ จากนั้นใส่ลงในขวดน้ำยากำจัดมูกเลือด ก่อนนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
- ตรวจหาเชื้อเอชพีวี (HPV DNA Test) เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ระดับ DNA ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวี ได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถระบุลงลึกไปได้ถึงสายพันธุ์ของเชื้อ HPV ไม่ว่าจะเป็น สายพันธุ์ 16 และ สายพันธุ์ 18 ที่มีความเสี่ยงสูงสุดและเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง 70% และสามารถเว้นการตรวจซ้ำได้ถึง 5 ปี ให้ความแม่นยำในการตรวจเจอโรคสูงเกือบ 100%
ทำไมต้อง “ตรวจมะเร็งปากมดลูก” ร่วมกับ “หาเชื้อไวรัส HPV”
การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pathtezt ร่วมกับหาเชื้อเอชพีวี (HPV DNA Test) ถือว่าการตรวจที่มีความแม่นยำ ลดโอกาสเสี่ยง มะเร็งปากมดลูกมากยิ่งขึ้น เพราะมีความไวในการตรวจหามะเร็งปากมดลูกเกือบ 100% รวมทั้งเป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการเจาะลึกให้มากขึ้นว่ามีการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีการติดเชื้อก็สามารถมั่นใจว่าในช่วง 3-5 ปีที่รับการตรวจโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจะน้อยมาก
อายุเท่าไหร่ควรตรวจ? ตรวจบ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่ออายุ 30 ปี ทุกๆ 3 ปี เป็นอย่างน้อย ไม่นับการตรวจโรคทางนรีเวชอย่างอื่นซึ่งแนะนำว่าควรตรวจ 1 ปี แต่อาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี ตามความเหมาะสม เพื่อที่จะตรวจพบมะเร็งปากมดลูกได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งมีการรักษาที่ได้ผลและหายขาด โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นมะเร็งปากมดลู กเช่น กินยากดภูมิคุ้มกัน, เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV) หรือเคยมีประวัติเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ, เคยผ่าตัดปากมดลูก หรือผ่าตัดมดลูกเนื่องด้วยเซลล์ผิดปกติ
ความผิดปกติและโรคมะเร็งปากมดลูกจะไม่แสดงอาการออกมาทันที ผู้หญิงเราจึงไม่สามารถรับรู้ได้ ภัยเงียบเหล่านี้ยิ่งปล่อยไว้ก็ยิ่งอันตราย หากได้รับการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ และการดูแลที่เหมาะสม โรคมะเร็งปากมดลูกจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ เพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้น
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพสตรี